วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เสียงสุนัขเห่า....สื่ออะไร?

สำหรับสุนัข การเห่า คือการสื่อสาร สังเกตได้ว่าในการเห่าแต่ละครั้งจะมีโทนเสียงที่ต่างกัน มีสั้นยาวไม่เท่ากัน รวมถึงความถี่และจำนวนครั้งที่แตกต่างกัน และนั่นก็เป็นคำพูดที่เขาต้องการใช้สื่อสารให้คุณรับรู้อีกด้วย


ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมของสุนัข 
ได้ทำการแยกประเภทและความหมายของเสียงเห่าแต่ละชนิดไว้ ดังนี้


การเห่าสั้น ๆ 2-3 ครั้ง
เป็นการทักทายกันยามปกติ…เช่นเมื่อคุณกลับเข้าบ้าน หรือเมื่อเจอกันตอนเช้าหลังตื่นนอน เป็นต้น
แปลความหมายได้ว่า.. “สวัสดีเจ้านาย”


การเห่าเป็นชุด ๆ ละ 3-4 ครั้ง แล้วหยุดเป็นระยะ
เป็นการชักชวนให้คุณมาดูอะไรบางอย่าง….
แปลความหมายได้ว่า…”มาดูอะไรนี่สิ”


การเห่าเร็ว ๆ ติด ๆ
เป็นการเตือนภัยว่าจะมีอะไรเข้ามาใกล้ หรือในเวลาที่หมาน้อยมองเห็น ได้กลิ่นของคนแปลกหน้า
มีความหมายว่า “ระวังนะ!!! กำลังมีอันตรายเข้ามาใกล้เราแล้ว…”
แต่ถ้าโทนเสียงต่ำ ๆ ติด ๆ ละก็มีความหมายว่า “อันตรายมาถึงแล้วนะ” หรือเป็นการขู่คนร้ายว่า “อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวกัดเลย”
เห่าแล้วหยุด…เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานาน
เป็นการบอกว่า “เหงาจัง” มาเล่นเป็นเพื่อนหน่อยซิ



การเห่าครั้งเดียวสั้น ๆ
หากคุณหรือใครอื่นกำลังยุ่งวุ่นวายกะเค้าอยู่แล้วมีการเห่าสั้น ๆ ขึ้นนั้น มีความหมายว่า “รำคาญนะ อย่ามายุ่ง อยากอยู่คนเดียว”
แต่ถ้าไม่มีใครวุ่นวายกะเค้าอยู่ละก้อ…มีความหมายว่า “อยากเข้าห้องน้ำ หรือหรือถึงเวลาให้อาหารแล้ว”


การเห่าติดต่อกันนาน ๆ
ถ้าเป็นลูกสุนัขไม่มีอะไรมากหรอก..เขาแค่ต้องการให้คุณอยู่ใกล้ๆ และสนใจตลอดเวลา ประมาณว่าออดอ้อนอะไรทำนองนั้น


การเห่ารัว ๆ และดังขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นการบ่งบอกว่าเค้าตื่นเต้น และกำลังสนุกจริง ๆ
ทีนี้คงเข้าใจเจ้าตูบของคุณกันมากขึ้นแล้วนะคะ…ค่อย ๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจกันต่อไป สักวันคุณก็จะเข้าใจเจ้าตูบมากขึ้นแน่ ๆ




ที่มาจาก : หนังสือโลกสัตว์เลี้ยง

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ไอเดียร์แต่งห้องเก๋ๆ ;P'

ใครที่กำลังหาไอเดียแต่งบ้าน
แบบเก๋ไก๋ เริ่ด ไม่เหมือนใครแล้วล่ะก็
รีบเข้ามาดูภาพเหล่านี้ที่พี่ปัดเอามาฝากเลยจ้ะ
เพราะ “เจ๋งมากๆ”
เด็กดีดอทคอม :: อยากได้แบบนี้สักห้องไหม

เหนื่อยมาทั้งวันแล้วก็ขอพักผ่อน และแต่งหล่อ แต่งสวยที่ตรงนี้สักหน่อย
เด็กดีดอทคอม :: อยากได้แบบนี้สักห้องไหม

ถ้าอยากออกกำลังกาย ก็เลือกใช้วิธีนี้ก็ได้
เด็กดีดอทคอม :: อยากได้แบบนี้สักห้องไหม
ลองมาสไลด์ตัวลงอุโมงค์แบบนี้ ก็สนุกไปอีกแบบ
ไอเดียร์แต่งห้องเก๋ๆแบบนี้เอาไปลองทำที่บ้านซักหน่อยไหมคะ ;P'
ที่มาจาก Dek-d.com

ทำงานอย่างไรให้มีความสุข ;P'

ความเครียดในการทำงานทำให้คุณคิดอะไรไม่ออกใช่ไหม ?

ถ้าคำตอบของคุณคือ...ใช่
วันนี้เรามีวิธีคลายเครียดแบบง่ายๆ มานำเสนอ ซึ่งอาจเป็นวิธีที่อ่านแล้วรู้สึกทำได้ง่ายเหลือเกิน แต่เวลาปฎิบัติจริงนี่สิ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมถึงทำไม่ได้สักที ลองเลือกสักวิธีที่ถูกใจ แล้วนำไปปรับใช้บ้าง

ยิ้มรับเช้าวันใหม่กับจิตใจที่แจ่มใสในวันทำงาน
ในแต่ละวัน คุณๆ ต้องพบเจอกับสารพัดปัญหาบนท้องถนน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องนำมันเข้ามาปะปนกับงานในที่ทำงานด้วยไม่ใช่หรือ ยิ้มรับให้กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อร่วมสร้างบรรยากาศที่ดีร่วมกัน
ทุกปัญหามีทางออก
เป็นเรื่องธรรมดา หากว่าการทำงานจะมีอุปสรรคต่างๆ เพื่อเข้ามาทดสอบตัวเรา จงคิดเสียว่าอุปสรรคก็คือโจทย์ การค้นหาคำตอบให้กับโจทย์ ก็คือ การแก้ปัญหานั่นเอง อย่าเก็บปัญหาไว้เพียงคนเดียว เพราะเมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็ย่อมต้องปรึกษาหาทางแก้ไข มิใช่เก็บไว้เพียงผู้เดียว

ปรับเปลี่ยนสิ่งรอบตัวให้ดูสดใส
เมื่อสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว ชวนให้เกิดความรู้เบื่อหน่ายล่ะก็ ลองมองหาวันว่างสักวัน แล้วปรับเปลี่ยนบรรยากาศที่รายล้อมอยู่รอบโต๊ะให้สดชื่นเติมเต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ด้วยกระถางดอกไม้เล็กๆ หรือเพิ่มเติมสีสันด้วยแจกันดอกไม้หลากสี เพราะมันอาจเป็นแหล่งจุดประกายไอเดียดีๆ สำหรับคุณก็เป็นได

ออกกำลังกายสักนิดชีวิตจะไม่เครียด
บางครั้งการนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ก็เป็นสาเหตุทำให้เครียดได้เช่นกัน หากเป็นไปได้ ลองลุกขึ้นปรับเปลี่ยนอิริยาบทบ้าง หรืออาจจะนั่งบริหารร่างกายอย่างง่ายบนเก้าอี้ทำงาน เท่านี้ก็จะสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี

หัดมองโลกในแง่ดีบ้าง
การมองโลกในแง่ดี สามารถทำให้คุณเกิดความรู้สึกดีๆ กับบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงลูกค้า เพราะเมื่อมีความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้น ก็จะก่อให้เกิดแรงผลักดันตามมา ส่งผลให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สร้างเสียงหัวเราะในที่ทำงาน
เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุขที่เกิดขึ้น และถ้าหากว่าคุณเป็นผู้สร้างเสียงหัวเราะในที่ทำงาน นั่นก็หมายถึง คุณสามารถทำให้บุคคลรอบข้าง ในที่ทำงานมีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะและแจ่มใสตลอดทั้งวันได้ ดังนั้น การบอกต่อเรื่องราวต่างๆ หรือการนำสิ่งใหม่ๆ มาเล่าสู่กันฟัง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี หากว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้บรรยากาศในห้องมีอารมณ์ขัน และสดชื่นได้ตลอดทั้งวัน

บทความจาก etoyota club

ขนตาปลอม ;P'



หลายครั้งหลายคราที่พวกเราได้เห็นบรรดานางแบบตามหน้าแม็กกาซีน หรือที่กำลังเดินแบบอยู่บนแคตวอล์ก พวกเธอไม่เพียงแต่จะใส่ชุดสวยมา โพสท่าอวดโฉม หากแต่ยังมีขนตายาวงอนงามที่พร้อมเป็นหน่วยสนับสนุนให้
ดวงตาดูสวยเด่นไม่แพ้สเต็ปเมคอัพอื่น ๆ อีกด้วยละคะ วันนี้เราก็เลยมีเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับขนตาปลอมมาฝาก


ตรวจเช็กขนตาปลอม 
ของคุณก่อนว่ามีขนาดความกว้างยาวพอดีกับแนวขนตาของคุณหรือยัง
ถ้ายังดูยาวเกินความต้องการละก็ ผู้เขียนขอแนะนำให้มองหากรรไกรเล็กๆ
มาเล็มออก แต่ว่าให้เล็มเฉพาะด้านใน (หัวตา) เท่านั้นนะคะ นั่นเป็นเพราะขนตาปลอมบางรุ่นตั้งใจจะมีลูกเล่นปล่อยยาวหรือ
กระดกปลายไว้ที่บริเวณหายตา 

ขนตาปลอม 
ไม่มีแต่ชนิดที่เป็นแผงขนตาเท่านั้นหรอกนะคะ แต่ยังมีรูปแบบที่เป็นช่อขนตา สำหรับไว้ติดแซมให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติไปกับขนตาจริง

หยอดกาวที่โคนขนตาปลอม 
รอให้กาวกระจายทั่วแล้วใช้แหนบหนีบขนตาปลอมไปทาบติดที่แนวขนตา หลังจากติดทาบขนตาปลอมลงบนแนวขนตาเรียบร้อยแล้ว ขอแนะนำว่าให้คุณหลับตาอยู่อย่างนั้นสักแป๊บหนึ่ง 
(นับไป 30 วินาที) รอให้กาวค่อยๆ ซึมอย่างถ้วนทั่ว จากนั้นใช้ปลายนิ้วกดเบาๆ ที่แนวขนตาจากด้านในสู่ด้านนอก เพื่อให้มั่นใจว่าขนตาปลอมติดแน่นดีแล้ว คุณสามารถใช้มาสคาร่าปัดทับหรือดัดขนตาเพิ่มได้อีก
หลังจากที่ติดขนตาปลอมลงไปแล้ว แต่ในกรณีนี้ขอให้เจาะจง
เฉพาะขนตาปลอมแบบธรรมชาติเท่านั้นนะคะ 
ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับขนตาปลอมที่มีดีไซน์เก๋จัด เช่น พวกขนตาปลอมขนนก ขนตาปลอมประดับเพชร เพราะจะทำให้ขนตาปลอมล้ำดีไซน์ของคุณ
เกิดความเสียหายได้อย่างแน่นอน ดึงขนตาปลอมออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ควรรีบล้างทำความสะอาดให้ทันที อย่าปล่อยข้ามวันข้ามคืนเชียว มิเช่นนั้นกาวที่ติดอยู่กับขนตาและเชื้อแบคทีเรียในอากาศจะเกิดการสั่งสม ผลก็คือสร้างโอกาสให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองขึ้นได้ 
ส่วนวิธีทำความสะอาดก็ทำได้แสนง่าย เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท
อายส์เมคอัพรีมูฟเวอร์ หรือคลีนซิ่งออยล์มาเช็ดล้างทำความสะอาด

ที่มา : www.pop.co.th

เซ็กส์กับการจูบปาก ;P'

ปากประกบปากคือที่มาของการมีเซ็กซ์ เพราะทุกคู่รักล้วนเริ่มต้นการมีเซ็กซ์ด้วยการแลกลิ้นสัมผัส ถึงความเสียวกัน ก่อนที่จะลุกลามเพื่อสนองตอบกับความคันไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย แต่ก่อนที่จะพุ่งเป้าไปที่เป้าของผู้ชาย ลองมาฟังทางนี้ก่อนว่า ความจริงที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับการจูบมันมีอะไรบ้าง

1. ในทุกอณูลิ้นจะอุดมไปด้วยเส้นประสาท จุดไฟแห่งความคันและความเสียว ผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า ลิ้นของคุณเวลาเกิดการแลกลัวพัวพันกันระหว่างลิ้นนั้นทำให้คุณมีความรู้สึก อยากมากขึ้น เหมือนกับว่า การจูบกระตุ้นให้เกิดการมีเซ็กซ์ได้ 100 เท่ามากกว่าการลูบไล้ด้วยมือซะอีก จึงไม่แปลกที่เวลาก่อน ระหว่าง หรือหลังการมีเซ็กซ์ จูบจึง มีความสำคัญได้ตลอดเพราะ จูบทั้งช่วยกระตุ้นทาง เพศและทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ

2. ผู้ชายกว่า 40% เผยว่า จูบที่ยาวๆ ดูดปากด้วยความ แรงและนานจะผลักดันให้ผู้ชายเกิดความต้องการการมีเซ็กซ์ขึ้น มาทันที ส่วนอีก 30% บอกว่าเวลาที่จูบ ถ้าผู้หญิงล้วงไปจับลูบคลำที่ลูกบอลและท่อนเอ็นของเขา การมีเซ็กซ์จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

3. จูบสั้นๆ ห่างๆ พร้อมกับคำพูดบอกลาว่า “เจอกันใหม่” ที่ผู้ชายส่งไปให้คุณเป็นสัญญาณเตือนว่า ความสัมพันธ์ของคุณและเขากำลังมีปัญหาเป็นไปได้ว่า เขารู้สึกไม่มั่นใจกับความรักที่เขากับคุณมีด้วยกัน หรือเป็นสัญญาณเตือนอีกด้วยว่า เขากำลังมีคนใหม่

4. เวลาจูบกัน ถ้าคุณต้องการให้ระดับของความใกล้ชิดมันแนบแน่นและเร่าร้อนมากขึ้นควรดึงเอว ของผู้ชายเข้ามาหาตัวคุณมากที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่ปากประกบกัน เอวและอวัยวะเบื้องล่างแปะติดกันแล้ว อณูแห่งความอยากและตัณหาก็จะมีมากขึ้น

5. วิธีที่ดีที่สุดในการจูบหูของผู้ชายคือการสวาปามไป ที่ติ่งหูของเขาเป็นเวลา สักครู่จากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นไต่เล่นไปตามสันหู และถ้าจะให้ดีควรกระซิบคำพูดเสียวๆ ซี้ดๆ เข้าไปในหูของเขาสิ

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลีลาเซ็กส์ 8 ท่าไม้เด็ด เผด็จศึก ;P'


  8 ท่าไม้เด็ด ของคุณผู้ชายที่คุณสาว ๆ ควรรู้ไว้เพื่อรับมือ ส่วนคุณผู้ชายก็จะได้ทราบค่ะว่า ท่าไม้เด็ดของคุณนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อใช้ให้ถูกกาลเทศะและเพื่อให้สมานฉันท์  
 
        หรือถ้าเราเง้างอดว่า “อะไรกัน? คุณให้ฉันทำไข่เจียวแค่เนี้ยเหรอ? นี่คุณกำลังหาว่าชั้นขี้เกียจ รึว่าทำอะไรไม่เป็นรึไง นี่รู้ไหม ฉันน่ะมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้คุณทานนะ แต่ที่สำคัญฉันงงมากที่คุณดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย คุณทำท่าเหมือนว่าอยากเลิกกับชั้นยังงั้นแหละ…. ไม่ว่าเราจะพยายามระบายความอัดอั้นตันใจแ ละต้องการให้เขาหันมาปรับความเข้าใจเพียงไร เขาก็ทำเหมือนกับว่าเราบ่นไปงั้น ๆ แล้วทำเป็นหูทวนลมเสีย
         เพราะชีวิตคู่ก็เหมือนลิ้นกับฟัน ที่คู่สามีภรรยาย่อมต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา และบนสังเวียนของการโต้เถียง ฝ่ายคุณผู้หญิงย่อมได้เปรียบ เพราะเป็นเพศที่มีความถนัดทางการใช้วาจาเป็นอาวุธ แต่ใช่ว่าคุณผู้ชายจะหมดทางสู้…เขาก็มีอาวุธลับ แม่ไม้ต่าง ๆ นานา มาโรมรันคุณได้เหมือนกัน   

 แม่ไม้ที่ 1  ทำหูทวนลม
         เชื่อว่าพวกเราชาวดาวศุกร์คงเจอไม้นี้บ่อย ๆ เมื่อเราเอ่ยปากเรื่องความสัมพันธ์ที่กำลังทำท่าจะเป็นปัญหา เช่น “ชั้นว่ามีบางอย่างที่เราควรปรับปรุงให้ดีขึ้นนะ” สำหรับพวกดาวอังคารแล้ว คำพูดแบบนี้เท่ากับตอกย้ำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีข้อบกพร่อง และเหมือนการบอกเป็นนัย ๆ ว่าเราอยากจะหลุดพ้นวิถีชีวิตที่ทำให้เกิดความรู้สึกแย่ ๆ อย่างนี้เต็มทน   

แม่ไม้ที่ 2  ทำเป็นฉุน
         นี่คือกลยุทธ์ของผู้ชายที่ใช้มาตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ เวลาเข้าตาจนถูกคุณภรรยาซักไซร้ไล่เรียง เขามักจะชิงทำท่าโกรธเกรี้ยวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เป็นการปกป้องตัวเอง มิให้ฝ่ายหญิงตั้งรับทัน และเป็นการตัดบทปิดประเด็นที่เป็นความกันอยู่   

แม่ไม้ที่ 3  คิดเอาเอง
         “เฮ้อ! เหนื่อยเหลือเกิน” แค่คำพูดลอย ๆ ที่เราบ่นกับตัวเอง เพราะเหนื่อยจากการงานหรือจากการดูแลลูกเต้า ฝ่ายเขาพานเข้าใจไปเองว่าเราพูดกระทบ เขารู้สึกเกลียดเข้าไส้ แทนที่จะหันมาใส่ใจไถ่ถามด้วยความห่วงใย หรือรีบเข้ามาช่วยทำงาน กลับมาโกรธเราแล้วงอนตุ๊บป่องไปเลย   

แม่ไม้ที่ 4  เบี่ยงเบนประเด็น
         เมื่อเจอเรื่องที่รู้ตัวว่าไม่มีทางโต้แย้งได้แน่ ๆ คุณสามีก็มักจะมีแทคติกง่าย ๆ ในการตั้งรับสายตาจ้องจับผิดของภรรยา อย่างเช่น เมื่อถูกภรรยาต่อว่า “เมื่อคืนคุณดื่มไวน์มากไปหน่อยนะ แถมซดเบียร์อีก 3 ขวด” เขารู้ว่ายากจะปฏิเสธ (เพราะหลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่) จึงทำเป็นรีบยอมรับผิด และออกปากว่าจะไม่ประพฤติเช่นนั้นอีก แล้วหาเรื่องมาพูดกลบเกลื่อนบรรยากาศคุกรุ่น หรือเฉไฉไปเรื่องอื่น เช่น นี่ถ้าเป็นลุงผมนะ คุณไม่มีทางจับได้หรอก แฮะ ๆ   

แม่ไม้ที่ 5  ขอโทษไปงั้น ๆ
         การกล่าวคำ “ขอโทษ” หรือ “เสียใจ” ทำนองว่า “ผมขอโทษละกัน…ถ้าคุณเห็นว่าผมผิด” พ่อเจ้าประคุณอาจไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจจริง แต่เป็นการตบตาเพื่อยุติเรื่องราวชวนสยอง (ที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำมือภรรยา) หรือไม่ก็เป็นคำพูดประเภทว่า “เอาละ ผมยอมรับว่าคุณเป็นฝ่ายถูก ส่วนผมมันเป็นคนที่เฮงซวยที่สุดในโลก” (เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สุดเย้ยหยันประชดประชัน)   

แม่ไม้ที่ 6  ทำเป็นบูดบึ้
         แทนที่จะจับเข่าพูดคุยกันให้รู้เรื่องรู้ราว ว่ามีเรื่องใดไม่สบอารมณ์ คุณผู้ชายกลับชักสีหน้าบูดบึ้งขมึงทึงสัก 2-3 วัน เพื่อให้เรารู้สึกว่า “ผมเริ่มไม่สบอารมณ์” หรือ “ชักจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ” และถ้าเรายังเฉยอยู่ เขาก็จะงึมงำว่า “ผมว่าเราแยกกันอยู่สักพักจะดีกว่า”   

แม่ไม้ที่ 7  ทำเป็นอมทุกข์
         ถ้าการชักสีหน้ายังไม่บรรลุผล พ่อตัวดีของเราอาจแสร้งทำตัวอมทุกข์อย่างสาหัสใ ห้คุณสงสารจนต้องเป็นฝ่าย เข้าไปเอาใจ เช่น ก้มหน้าก้มตาทำงานเยี่ยงทาส ถึงเวลากินก็ไม่กิน หอบหมอนไปนอนตากยุงนอกห้อง เป็นต้น   

แม่ไม้ที่ 8  หันหลังให้แล้วเดินจากไป
         ด้วยวิธีที่ผ่านมาทั้งหมด ถ้าผู้ชายยังไม่สามารถเอาตัวรอด หรือเอาชนะผู้หญิงได้ เขาอาจใช้ไม้ตายนี้ เพราะรู้ดีว่าทักษะในการโต้ตอบด้วยวาจาไม่เก่งกาจเท่าผู้หญิง เขาคิดว่า “พูดไปก็เท่านั้น ยังไงซะคุณก็เป็นฝ่ายชนะเสมอ ไม่ใช่เพราะว่าคุณเป็นฝ่ายถูกหรอกนะ แต่ผมรู้ว่าผมเถียงสู้คุณไม่ได้” ที่สุดเลยใช้วิธีหันหลังให้แล้วเดินจากไป ปล่อยให้เราอึ้ง ทึ่ง โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว


ไม่ว่าจะมาไม้ไหน ผู้ชายร้อยทั้งร้อยย่อมม้วยมรณาด้วยคำพูดหวานหูด้วยกันทุกราย จำไว้นะพวกเรา

ที่มาจาก thaiza

สีกางเกงใน บอกนิสัย sex ;P'

สีขาว 
คงคุยเรื่อง sex ตรงๆกับคนใส่กางเกงในสีขาวไม่ได้ คนที่ใส่ชุดชั้นในสีนี้ จะยอมเปลื้องผ้าก็ต่อเมื่อมีผ้าคลุมเท่านั้น และไม่ชอบ sex แบบแผลงๆด้วย


สีดำ
เป็นคนลึกลับน่าค้นหา ชอบ sex แบบรุนแรงและอ่อนโยน จึงค่อนข้างจะคาดเดาความต้องการของเขาหรือเธอได้ยาก


สีน้ำเงิน
เป็นคนที่นุ่มนวลมากยามอยู่บนเตียง จะเข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องร้องขอ


สีชมพู
เป็นคนเจ้าชู้ ยามอยู่บนเตียงจะชอบล่อหลอกหยอกเล่นให้ตายใจ แล้วก็เผด็จศึกในที่สุด


สีส้ม
เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการเล้าโลม แต่ก็ยืดเยื้อเหลือเกิน เพราะมีขั้นตอนเยอะ


สีเหลือง
เป็นคนที่เกรงใจคู่รักมากที่สุด มักจะชอบ "รับ" มากกว่า "รุก" และคนที่ชอบใส่กางเกงชั้นในสีนี้ มักเป็นพวกที่ชอบไม้ป่าเดียวกันซะด้วย


สีเขียว
แกล้งทำตัวบ้องแบ๊ว แต่ที่จริงเป็นหมาป่าซ่อนเขี้ยวเล็บ คอยจ้องจะเขมือบเหยื่อที่ตายใจ แต่เขาก็สามารถทำให้คู่ขาสนุกสนานและอิ่มเอมในรสรักที่เขาปรนเปรอให้ล่ะ


โดย Kapook.com